ข้อ ๑o สมาชิกภาพขอสมาชิกกิตติมศักดิ์ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่หนังสือตอบรับคำเชิญของผู้ที่คณะกรรมการได้พิจารณาให้เชิญเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมได้มาถึงสมาคม
ข้อ ๑๑ สมาชิกภาพของ สมาคมให้สิ้นสุดลงด้วยวเหตุผลดังต่อไปนี้
๑๑.๑ ตายหรือสิ้นสภาพความเป็นนิตบุคคล
๑๑.๒ ลาออก โดยยื่นหนึงสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการได้พิจารณาอนุมัติ และสมาชิกผู้นั้นได้ชำระหนี่สินที่ติดค้างอยู่กับสมาคมเป็นที่เรียบร้อย
๑๑.๓ ขาดคุณสมบัติของการเป็นสมาชิก
๑๑.๔ ที่ประชุมใหญ่ของสมาคม หรือกรรมการได้พิจารณาลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียน
ข้อ ๑๒ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก
๑๒.๑ มีสิทธิ์เข้าใช้สถานที่ของสมาคมโดยเท่าเทียมกัน
๑๒.๒ มีสิทธิ์เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการของสมาคมต่อีคณะกรรมการ
๑๒.๓ มีสิทธิ์ได้รับสวัสดิการต่างๆ ที่สมาคมได้จัดให้มีขึ้น
๑๒.๔ มีสิทธิ์เข้าร่วมประชุมใหญ่ของสมาคม
๑๒.๕ สมาชิกสามัญมีสิทธิในการเลือกตั้ง หรือได้รับการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสมาคม และมีสิทธิ ออกเสียงลงมติตางๆ ในที่ประชุมได้คนละ 1 คะแนนเสียง
๑๒.๖ มีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบเอกสารและบัญชีทรัพย์สิน่ของสมาคม
๑๒.๗ มีสิทธิเข้าชื่อร่วมกันของสมาชิกสามัญไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด หนังสือร้องขอต่อคณะ กรรมการให้ประชุมใหญ่วิสามัญได้
๑๒.๘ มีหน้าที่จะต้องปฎิบัติตามระเบียบปฎิบัติ และข้อบังคับของสมาคมโดยเคร่งครัด
๑๒.๙ มีหน้าที่ประพฤติตนให้สมกับเกียรติที่เป็นสมาชิกของสมาคม
๑๒.๑o มีหน้าที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินกิจการต่างๆ ของสมาคม
๑๒.๑๑ มีหน้าที่ร่วมกิจกรรมที่สมาคมได้จัดขึ้น
๑๒.๑๒ มีหน้าที่เผยแพร่ชื่อเสียงของสมาคมให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
๑๒.๑๓ ต้องมีส่วนร่วมหรือให้ความยินยอมที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมที่สมาคมกำหนด
หมวดที่ ๓
การดำเนินกิจการสมาคม
ข้อ ๑๓ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง ทำหน้าที่บริหารกิจการของสมาคม มีจำนวนอย่างน้อย ๗ คน อย่างมากไม่เกิน ๒๔ คน คณะกรรมการนี้ได้มาจากการเลือกตั้งของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม และให้ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่เลือกกันเองเป็นนายกสมาคม ๑ คน และอุปนายกอย่างน้อย ๒ คน สำหรับตำแหน่งกรรมการในตำแหน่งอื่นๆ ให้นายกเป็นผู้แต่งตั้งผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่เข้าดำรงตำแหน่งต่างๆ ของสมาคม ตามที่ได้กำหนดไว้ซึ่งตำแหน่งของกรรมการสมาคมมีตำแหน่งและหน้าที่โดยสังเขป ดังต่อไปนี้
๑๓.๑ นายกสมาคมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคม คณะกรรมการเป็นผู้แทนสมาคมในติดต่อกับบุคคลภายนอก และทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม คณะกรรมการ และการประชุมใหญ่ของสมาคม
๑๓.๒ อุปนายกทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารจัดการสมาคม ปฏิบัติตามหน้าที่ที่นายกสมาคมได้มอบหมายและ ทำหน้าที่แทนนายกสมาคมเมื่อนายกสมาคมไม่อยู่ หรือไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่การทำหน้าที่แทนนายก สมาคมให้อุปนายกตามลำดับตำแหน่งเป็นผู้กระทำการแทน
๑๓.๓ เลขานุการ ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการของสมาคมทั้งหมด เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของสมาคมในการปฏิบัติกิจการของสมาคม และปฏิบัติตามคำสั่งของนายกสมาคมตลอดจนทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่างๆ ของสมาคม
๑๓.๔ เหรัญญิกมีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาคม เป็นผู้จัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย บัญชีงบดุลของสมาคม และเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ
๑๓.๕ นายทะเบียน มีหน้าที่เกี่ยวกับทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาคมประสานงานกับเหรัญญิกในการเรียกเก็บเงินค่าบำรุงสมาคมจากสมาชิก
๑๓.๖ ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่กิจการและชื่อเสียงเกียรติคุณของสมาคมให้สมาชิกและบุคคลทั่วไปให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
๑๓.๗ กรรมการตำแหน่งอื่นๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควรกำหนดให้มีขึ้นโดยมีจำนวนเมื่อรวมกับตำแหน่งกรรมการตามข้างต้นแล้วจะต้องไม่เกินจำนวนที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้ แต่ถ้าคณะกรรมการมิได้กำหนด ตำแหน่งก็ถือว่าเป็นกรรมการกลาง คณะกรรมการชุดแรก ให้ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งสมาคมเป็นผู้เลือกตั้งประกอบด้วยนายกสมาคม และกรรมการอื่นๆ ตามจำนวนที่เห็นสมควรตามข้อบังคับของสมาคม
ข้อ ๑๔ คณะกรรมการของสมาคมสามารถอยู่ในตำแหน่งได้คราวละ ๒ ปี และเมื่อคณะกรรมการอยู่ในตำแหน่งครบกำหนดตามวาระแล้ว แต่คณะกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการก็ให้คณะกรรมการที่ครบกำหนดตามวาระรักษาการไปพลางก่อน จนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการและเมื่อคณะกรรมการชุดใหม่ได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ให้ทำการส่งและรับมอบงานกันระหว่างคณะกรรมการชุดเก่าและคณะกรรมการชุดใหม่ให้เป็นที่เสร็จภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับการจดทะเบียนจากทางราชการ
ข้อ ๑๕ ตำแหน่งกรรมการสมาคม ถ้าต้องว่างลงก่อนครบกำหนดวาระก็ให้คณะกรรมการแต่งตั้งสมาชิกสามัญคนใดคนหนึ่งที่เห็นสมควรเข้าดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้น แต่ผู้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งได้เท่ากับวาระของผู้ที่ตนแทนเท่านั้น
ข้อ ๑๖ กรรมการต้องเป็นบุคคลธรรมดาและ
๑๖.๑ เป็นผู้แทนของนิติบุคคลซึ่งเป็นสมาชิกสามัญ
๑๖.๒ เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว
๑๖.๓ ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
๑๖.๓.๑ ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลว่ากระทำผิดกฏหมายว่าด้วยการประกอบกิจการการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ และกฎหมายอาญา เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี หรือเป็นความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท
๑๖.๓.๒ ไม่เคยถูกพิจารณาให้ออก ไล่ออก ขับให้พ้นออกจากการเป็นสมาชิก หรือมีพฤติกรรมลาออกจากองค์กรที่ประกอบกิจการการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เมื่อถูกร้องเรียนว่ากระทำผิดมาตรฐานทางจริยธรรม
ข้อ ๑๗ กรรมการอาจพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งไม่ใช่เป็นการออกตามวาระด้วยเหตุผลต่อไปนี้ คือ
๑๗.๑ ตาย
๑๗.๒ นิติบุคคลที่ตนเป็นตัวแทนสิ้นสภาพความเป็นนิติบุคคล หรือสิ้นสภาพความเป็นสมาชิก
๑๗.๓ ออกจากนิติบุคคลที่เป็นสมาชิก
๑๗.๔ นิติบุคคลขอยกเลิกหรือเปลี่ยนตัวแทน
๑๗.๕ ขาดจากสมาชิกภาพ
๑๗.๖ ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้พ้นจากตำแหน่ง
กรณีที่กรรมการที่เป็นตัวแทนของนิติบุคคลเสียชีวิตลง หรือออกจากนิติบุคคล หรือนิติบุคคลขอยกเลิก หรือเปลี่ยนตัวแทน ให้นิติบุคคลนั้นแจ้งรายชื่อตัวแทนคนใหม่เข้ามาเป็นกรรมการให้สมาคมทราบภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่กรรมการผู้นั้นเสียชีวิตลง หรือออกจากนิติบุคคล หรือนิติบุคคลขอยกเลิก หรือเปลี่ยนตัวแทน
ข้อ ๑๘ กรรมการที่ประสงค์จะลาออกจากตำแหน่งกรรมการให้ยื่นใบลาออกเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ
ข้อ ๑๙ อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ
๑๙.๑ มีอำนาจออกระเบียบปฏิบัติต่างๆ เพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติ โดยระเบียบปฏิบัตินั้นจะต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับฉบับนี้
๑๙.๒ มีอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาคม
๑๙.๓ มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการได้ แต่กรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการ จะสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินวาระของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง
๑๙.๔ มีอำนาจเรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี และประชุมใหญ่วิสามัญ
๑๙.๕ มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการในตำแหน่งอื่นๆ ตามที่ข้อบังคับกำหนดไว้
๑๙.๖ มีอำนาจบริหารกิจการของสมาคม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนมีอำนาจอื่นๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้
๑๙.๗ มีหน้าที่จัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญ และประชุมใหญ่วิสามัญตามที่ข้อบังคับกำหนดไว้
๑๙.๘ มีหน้าที่จัดทำเอกสารหลักฐานต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวกับการเงิน ทรัพย์สินและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ และสามารถให้สมาชิกตรวจดูได้เมื่อสมาชิกร้องขอ
๑๙.๙ จัดทำบันทึกการประชุมต่างๆ ของสมาคม เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานและจัดส่งให้สมาชิกได้รับทราบ
๑๙.๑๐ หน้าที่อื่นๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้