โมโน เน็กซ์ ชูเทคโนโลยีสร้างโอกาส พร้อมต่อยอดสู่ตลาดโลก

Last updated: 17 ต.ค. 2567  |  265 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โมโน เน็กซ์ ชูเทคโนโลยีสร้างโอกาส พร้อมต่อยอดสู่ตลาดโลก

‘โมโน เน็กซ์’ ชูเทคโนโลยีสร้างโอกาส พร้อมต่อยอดสู่ตลาดโลก


“หอแต๋วแตกแหกสัปะหยด” ภาพยนตร์ 100 ล้านบาท เป็นอีกหนึ่งผลงานคุณภาพ ภายใต้บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ที่ตอกย้ำถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพและโดนใจตลาดแม้เพียง 1 เรื่องก็คุ้มค่าในการลงทุน สอดคล้องกับทิศทางของโมโน เน็กซ์ ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ที่ถึงแม้จะเป็นน้องใหม่ในวงการโทรทัศน์ไทย แต่ด้วยวิสัยทัศน์ในการก้าวสู่ผู้นำการสร้างสรรค์สื่อและข้อมูลชั้นนำของไทย ผ่านเทคโนโลยีและสื่อที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ในโลกดิจิทัล
กองบรรณาธิการ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “นวมินทร์ ประสพเนตร” ประธานกรรมการ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด ถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของโมโน เน็กซ์ เพื่อตอบโจทย์ผู้นำคอนเทนต์และแพลตฟอร์มของไทย พร้อมก้าวสู่การแข่งขันในตลาดสากล รวมถึงเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นจากการเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI


“ปัจจุบัน ภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไม่ได้มีแค่ทีวีดิจิทัล มีทีวีดาวเทียม โครงข่ายไฟเบอร์ หรือเคเบิลทีวี ซึ่งกว่า 50% ของครัวเรือนไทยรับชมรายการผ่านระบบเคเบิลใยแก้ว รวมถึงการรับชมผ่านอินเทอร์เน็ต OTT แอปพลิเคชั่น สตรีมมิ่ง โซเชี่ยล มีเดียต่าง ๆ เฟซบุ๊ค ยูทูบ อินสตราแกรม TikTok และในอนาคตต้องเจอกับ AI” นวมินทร์ ฉายภาพการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมสื่อและคอนเทนต์ในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา


ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมสื่อคอนเทนต์ในประเทศไทย พึ่งพารายได้จากทีวีเป็นหลัก ด้วยแพลตฟอร์มที่มีจำนวนมาก ทำให้รายได้จากโฆษณาลดลง และกระจายมากขึ้น ผู้ผลิตต้องปรับตัวหาโอกาสจากช่องทางที่หลากหลาย สร้างจุดขายและคอนเทนต์ที่แตกต่างในแต่ละแพลตฟอร์ม ซึ่งคอนเทนต์ที่นำไปเผยแพร่ผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ค สตรีมมิ่ง วิดีโอสั้นอย่าง TikTok ต้องปรับให้สอดรับกับธรรมชาติของแต่ละแพลตฟอร์ม ตามความต้องการของผู้ชม

เทคโนโลยีมาพร้อมกับโอกาส


อุตสาหกรรมสื่อและคอนเทนต์ในประเทศไทย เผชิญกับการเปลี่ยนผ่านในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่การประมูลทีวีดิจิทัล แต่มาพร้อมเทคโนโลยีอีกหลากหลาย และการขยายตัวของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง NETFLIX เป็นต้น ผู้ประกอบการไทยก็ต้องปรับตัวตาม ซึ่ง “นวมินทร์” มองว่า เทคโนโลยีเหล่านี้มาพร้อมกับโอกาส และเปิดกว้างสำหรับผู้ผลิตคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ หรือรายเล็ก ที่มีช่องทางให้นำเสนอคอนเทนต์ได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อแย่งชิงคนดู ซึ่งพฤติกรรมในการรับชมคอนเทนต์แต่ละช่องทางแตกต่างกันไป และขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น


ในฐานะผู้ประกอบการรายใหญ่ โมโน ได้พัฒนาเนื้อหารายการ คอนเทนต์ประเภทต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงผู้ชมมากขึ้น ผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ปัจจุบันมี ทีวีดิจิทัล MONO29 ธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่ง MONOMAX การขายลิขสิทธิ์รายการในต่างประเทศ รวมถึงการสร้างคอนเทนต์ภาพยนตร์และซีรีส์ ภายใต้แบรนด์ “MONO ORIGINAL” ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุด “หอแต๋วแตกแหกสัปะหยด” ภาพยนตร์ไทยที่คาดว่าจะทำรายได้มากกว่า 100 ล้านบาทในปีนี้
นวมินทร์ กล่าวว่า MONOMAX เป็นแพลตฟอร์ม OTT ของคนไทย และมีคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์เองภายใต้แบรนด์ “MONO ORIGINAL” ซึ่งมีแผนผลิตภาพยนตร์และซีรีส์กว่า 20 เรื่องในปีนี้ เพื่อมุ่งมั่นผลิตคอนเทนต์คุณภาพออกสู่สายตาผู้ชมชาวไทยและขายลิขสิทธิ์ในตลาดโลก ผ่านแพลตฟอร์มของเราเอง และขายลิขสิทธิ์ในต่างประเทศ ปัจจุบันคอนเทนต์ไทยได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งพม่า ลาว และกัมพูชา


“การลงทุนด้านคอนเทนต์เป็นความท้าทาย ยากมาก อย่างการทำภาพยนตร์ 10 เรื่อง โดนตลาดสักเรื่องก็คุ้มค่าการผลิต อย่างเรื่อง “หอแต๋วแตกแหกสัปะหยด” ที่สร้างรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท การสร้างสรรค์คอนเทนต์ ถือเป็นงานศิลปะ ที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการสร้างทรัพย์สินทางปัญญา คอนเทนต์เดิมสามารถนำมารีรัน และขายลิขสิทธิ์ในต่างประเทศได้ สร้างมูลค่าเพิ่มได้อีก” นวมินทร์กล่าว


ผู้บริหารของโมโน เน็กซ์ ให้ความเห็นว่า การเข้ามาของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นอีกความท้าทายหนึ่ง ซึ่งเขามองว่าเป็นโอกาสมากกว่าอุปสรรค เพราะ AI สามารถเข้ามาช่วยลดข้อจำกัดในการนำเสนอคอนเทนต์ อาทิ เรื่องภาษา ทำให้การขยายตลาดคอนเทนต์ไปได้กว้างมากขึ้น คอนเทนต์จะไม่มีข้อจำกัดด้านภาษา เข้ามาช่วยยกระดับการผลิต การออกแบบ ดีไซน์ กราฟฟิกต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


“ในอนาคตอันใกล้เราไม่เห็นผลกระทบในเชิงลบ AI ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ รวดเร็วขึ้น ใช้คนน้อยลง ซึ่งเป็นทิศทางของโลกที่ก้าวไป และเราต้องปรับให้ทันกับเทคโนโลยี”


ในปี 2566 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทโมโน เน็กซ์ เห็นการเติบโตของธุรกิจสตรีมมิ่ง MONOMAX มีแนวโน้มที่ดี ได้นำเสนอการขายแพ็กเก็จแบบรายตอน (episode) ล่วงหน้าสำหรับซีรีส์ MONO ORIGINAL โดยสามารถสร้าง รายได้เพิ่มจากลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ รวมทั้งได้เริ่มนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค และสามารถสนทนาแนะนำรายการให้กับผู้บริโภคได้อีกด้วย โดยมองว่าจะเป็นสร้างการเติบโตให้ MONOMAX ในอนาคตอย่างยั่งยืน ร่วมพัฒนาคอนเทนต์ไทยขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์
ในมุมมองของ “นวมินทร์” ผู้ผลิตคอนเทนต์ไทย ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทยไปสู่ชาวโลก ซึ่งในฐานะที่โมโน เน็กซ์ เป็นผู้ผลิตรายใหญ่พร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยในตลาดโลก ด้วยการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่หลากหลาย ทั้งอาหาร วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ ศิลปะป้องกันตัว รวมไปถึงภาพยนตร์แนวผี หรือซีรีส์ วาย สะท้อนให้เห็นคุณภาพงานของคนไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก และมีเอกลักษณ์เฉพาะ ที่ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ให้เป็นนโยบายระดับประเทศ


“บ้านเรามีของดีเยอะ ที่สามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นคอนเทนต์ออกสู่สายตาชาวโลกได้ ภาคเอกชนทำได้ระดับหนึ่ง แต่ทำงานร่วมกันกับภาครัฐ บูรณาการความร่วมมือเพื่อผลักดันเป็นนโยบายระดับประเทศ ช่วยกันซัพพอร์ตอุตสาหกรรมให้เติบโตยิ่งขึ้น จะทำเพียงจุดใด จุดหนึ่งไม่ได้ ต้องพึ่งพากัน โมโนพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน ที่ผ่านมา เราอาจเน้นนำเข้าภาพยนตร์จากต่างประเทศ แต่ได้มีการเรียนรู้ พัฒนาโนฮาว์ รวมถึงการซื้อขาย ตอนนี้เราปรับทิศทางมุ่งตลาดต่างประเทศมากขึ้น และพร้อมอาสานำคอนเทนต์ไทยไปต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ในตลาดโลก” นวมินทร์กล่าว

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้